อารยธรรมอียิปต์

อียิปต์โบราณหรือไอยคุปต์ เป็นหนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา มีพื้นที่ตั้งแต่ตอนกลางจนถึงปากแม่น้ำไนล์ อารยธรรมอียิปต์โบราณเริ่มขึ้นประมาณ 3150 ปีก่อนคริตศักราช  โดยการรวมอำนาจทางการเมืองของอียิปต์ตอนเหนือและตอนใต้ ภายใต้ฟาโรห์องค์แรกแห่งอียิปต์ และมีการพัฒนาอารยธรรมเรื่อยมากว่า 5,000 ปี                                                                   

    อารยธรรมอียิปต์มีการพัฒนาในเรื่องของการควบคุมระบบชลประทาน,การควบคุมการผลิตพืชผลทางการเกษตร พร้อมกับพัฒนาอารยธรรมทางสังคม และวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีการทำเหมืองแร่และอียิปต์ยังเป็นชนชาติแรกๆที่มีการพัฒนาการด้วยการเขียนการประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้ ,การบริหารอียิปต์เน้นไปทางสิ่งปลูกสร้างและการเกษตรกรรมพร้อมกันนั้นก็มีการพัฒนาการทางทหารของอียิปต์ที่เสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่ราชอาณาจักรโดยประชาชนจะให้ความเคารพกษัตริย์หรือฟาโรห์เสมือนหนึ่งเทพเจ้า 

The Mummy 

   หนังเกิดขึ้นในสมัยอียิปต์ปี 1290 ก่อนคริสศักราช เมื่อ นักบวชอิมโฮเทป มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับสนมอนัคซูนามุนของฟาโรห์เซติที่1 เมื่อความลับเปิดเผยทั้งสองจึงร่วมมือกันสังหารฟาโรห์ จากนั้นอนัคซูนามุนก็ฆ่าตัวตายโดยหวังไว้ว่าอิปโฮเทปจะชุบชีวิตนางคืน หลังจากการฟังศพของอนัคซูนามุน อิปโฮเทปก็ได้ขโมยศพของนางไป ทั้งเขาและลูกน้องนักบวชหนีข้ามทะเลทรายไปที่ฮามันพัตราและพวกเขาได้เริ่ม ต้นพิธีชุบชีวิตของนางอนัคซูนามุนแต่พวกเขาถูกทหารองค์รักษ์ของฟาโรห์เซติขัดขวางก่อน ที่พิธีจะเสร็จ และด้วยความผิดนักบวชและอิปโฮเทปก็ถูกทำให้กลายเป็นมัมมี่ทั้งเป็นและถูกสาปไม่ให้ไปผุดไปเกิด พร้อมฝังด้วงกินเนื้อ เขาถูกฝังในโลงหินใต้รูปปั้นของเทพอนูบิส การดูแลอยู่ภายใต้ทหารผู้มีเชื้อสายขององครักษ์ฟาโรห์เซติ แต่ถ้าอิมโฮเทปคืนชีพอีกครั้งจะทำให้เขาเป็นอมตะ และจะปลดปล่อยสิ่งชั่วร้ายออกมา ทำลายล้างโลก

 ต่อมา ในปี1926 ที่ไคโร บรรณารักษ์และนักอียิปต์วิทยาชื่อ อีฟเวอรีน คาร์นาฮาน ได้รับกุญแจและแผนที่เมืองที่สาบสูญจากพี่ชายของเธอ โจนาธาน  โดยเขาบอกว่าพบมันในเมืองทีปส์  หลัง จากนั้นทั้งสองก็พบว่าแผนที่นำทางไปสู่ฮามันพัตรา แล้วโจนาธานก็สารภาพว่าเขาขโมยมันมาจากทหารชาวอเมริกันนาม ริค โอคอนเนล  ซึ่งตอนนี้อยู่ในคุก ริคบอกสองพี่น้องว่าเขารู้ทางไปเมืองนี้ ริคได้ต่อรองกับอีฟเวอรีนว่าถ้าเธอปล่อยเขาเป็นอิสระจากการถูกแขวนคอเขาจะพา พวกเธอไปที่นั่น ระหว่างทาง พวกเขาได้เจอกับกลุ่มนักล่าสมบัติที่นำโดยนักอียิปต์วิทยาชื่อ ดร.อลัน แชมเบอร์เลน และมีเบนี กาบอร์ อดีตทหารในหน่วยของริคเป็นไกด์ หลัง จากถึงฮามันพัตราไม่นาน ทั้งสองกลุ่มก็ถูกโจมตีโดยกลุ่มเม็จจัยที่นำโดยนักรบชื่อ อาร์เดธ เบย์  และเบย์ได้เตือนพวกเขาถึงความชั่วร้ายที่ถูกฝังอยู่ใต้นครทั้งสองกลุ่มไม่ ฟังคำเตือนของเบย์และสำรวจเมืองต่อไป อีฟเวอรีนอยากจะหาหนังสือแห่งอมันรา หนังสือทำจากทองแท้ที่เชื่อว่าสามารถดึงชีวิตออกจากร่างได้ แต่ดันมาเจอศพของอิปโฮเทปแทน ส่วนอีกทีมเจอกล่องที่มีหนังสือแห่งความตายสีดำพร้อมกับไหคาโนปิกที่บรรจุ เครื่องในของอนัคซูนามุน ที่แต่ละคนในทีมเอาไปเป็นสมบัติ

กลางดึกอีฟเวอรีนแอบเอาหนังสือแห่งความตายมาจากอีกกลุ่มและอ่านมันทำให้อิปโฮเทปฟื้นขึ้นมาแม้ว่าทั้งกลุ่มจะไปถึงไคโรแต่มัมมี่ก็ตามพวกเขาไป ฆ่าทีละคนเพื่อคืนร่างเดิม แต่เบนีรอดและเจออิปโฮเทปด้วยความกลัวเขาจึงสาบานว่าจะช่วยอิปโฮเทปตามหานักล่าสมบัติที่เหลือและไหคาโนปิกที่ไคโรอีฟเวอรีนจึงเดาว่าถ้าหนังสือแห่งความตายทำให้อิปโฮเทปฟื้นดังนั้นหนังสือแห่งอามันราน่าจะฆ่าเขาได้แต่อิปโฮเทปได้เอาตัวอีฟเวอรีนไปเพื่อที่จะบูชายันเอาอนัคซูนามุนกลับมานักบวชจึงเดินทางกลับฮามันพัตราโดยมีริคกับโจนาธานตามไป อีฟเวอรีนได้ถูกช่วยหลังจากการต่อสู้ระหว่างริคกับมัมมีของอิปโฮเทปและเธอก็ ได้อ่านหนังสือแห่งอามันรา  อิปโฮเทปจึงไม่เป็นอมตะอีกต่อไปและริคได้สังหารเขา ร่างของอิปโฮเทปค่อยๆสลายไปพร้อมกับคำสาบานว่าจะล้างแค้นเบนีก็เกิดซุ่มซ่ามทำให้กับดักทำงานทำให้เขาถูกแมลงสาบกินพร้อมๆกับนครฮามันพัตราที่พังทลายลงทรายไปส่วนพวกที่เหลือก็หนีตายออกมาได้อย่างหวุดหวิดและขี่อุฐไปสู่ตะวันที่กำลัง ลับฟ้าพร้อมกับสมบัติ

ความเกี่ยวข้องกับอารยธรรมอียิปต์

หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงอายธรรมอียิปต์ในหลายๆด้าน
1.ด้านสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้างต่างๆในเรื่องได้แสดงถึง
สถาปัตยกรรมมากมายทั้งพีระมิด เสาหินสลักเหตุการณ์ต่างๆและสถานที่สำคัญสำหรับใช้ในการเก็บศพฟาโรห์ซึ่งเป็นแบบตามอียิปต์โบราณ

2.ด้านศิลปกรรม การแกะสลักสฟิงซ์ รูปปั้นฟาโรห์หรือสิ่งต่างๆ การแกะสลักภาพ การวาดภาพเป็นการสื่อถึงความเชื่อเรื่องเทพต่างๆและแสดงออกถึงความสามารถเอกลักษณ์ของอียิปต์

3.ด้านความเชื่อหลังความตาย มีการทำมัมมี่เพื่อเก็บรักษาาร่างโดยเชื่อว่าวิญญาณจะกลับคืนเข้าสู่ร่างอีกครั้งมีคำสาปและบทลงโทษที่โหดร้ายสำหรับผู้ที่กระทำผิดตามความเชื่อของชาวอียิปต์

4.ความเชื่อในเรื่องของเทพเจ้า เทพอนูบิส เทพของอียิปต์มีลักษณะครึ่งคนครึ่งสัตว์ อนูบิสตามตำนานเป็นผู้ช่วยในการทำมัมมี่และนำทางเหล่าวิญญาณเพื่อไปทำสอบการชั่งวิญญาณ

5.ด้านการเมืองการปกครองมีฟาโรห์เป็นผู้ปกครองสูงสุด โดยในเรื่องยังมีการแสดงถึงนักบวช ทหาร คนธรรมดา สามารถสังเกตุได้จากการแต่งกาย ความหรูหราของชุด


6.ด้านการแต่งกายมีการแต่งการด้วยเสื้อผ้าที่ทำจากทอง เครื่องประดับทองในชนชั้นสูง การแต่งกายธรรมดาผู้ชายไม่ได้สวมเสื้อ ฟาโรห์มีการสวมหมวกที่แสดงถึงยศโดยหมวกที่สวมเป็นการรวมเอาหมวกของอียิปต์ตอนบนและอียิปต์ตอนล่างเข้าด้วยกัน




7.การประดิษฐ์และใช้ตัวอักษร เฮียโรกลิฟฟิคซึ่งเป็นอักษรโบราณของชาวอียิปต์โดยการใช้ในเรื่องมีการสลักลงบนแผ่นหินหรือผนังกำแพงต่างๆแสดงถึงเรื่องราว วิธีการ พิธีกำในอดีต




8.พัฒนาการในการใช้รถม้า หอกและเกราะที่ทำมาจากเหล็ก ดาบที่มีลักษณะเฉพาะแสดงถึงความแข็งแกร่งของอียิปต์ในการพัฒนาด้านอาวุธต่างๆและแสดงความเป็นเอกลักษณ์อย่างเห็นได้ชัด